เปิด อาชีพใหม่ ‘จอย ศิริลักษณ์’ อายุ 46 ปีเป็นนาง เอกไม่ได้แล้ว

หันหน้าเข้าสู่ทางธรรมอย่างเคร่งครัด จนมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในชีวิต ล่าสุดนางเอกในตำนาน จอย ศิริลักษณ์ กลายเป็นมือใหม่ด้านเปิดไพ่ทาโรต์ คอยไลฟ์สดให้คำชี้แนะทางช่องทางโซเชียลส่วนตัว งานนี้เผยถึงที่มาที่ไปผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา เล่าแบบหมดเปลือก พร้อมเรื่องเหลือเชื่อส่องพระจนเชื่อมจิตสื่อถึงพระอาจารย์ดังได้อีกด้วย

เริ่มมาเป็นหมอดู เปิดไพ่จริงจังได้อย่างไร?

“หนูใช้สมาธิในการดูจริงจัง แต่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพจริง หนูไม่ได้เปิดไพ่ส่วนตัวหรือดูเป็นอาชีพอะไร ไม่เก็บค่าครู ส่วนเรื่องที่จะดูให้คือแล้วแต่เราสะดวก เราก็จะเปิดไพ่ดูให้นะ ตามโซเชียลส่วนตัวของเรา”

ทำไมถึงเลือกดูเป็นไพ่ทาโรต์?

“ต้องบอกว่าโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม (หัวเราะ) คือต้องบอกว่าย้อนกลับไปน่าจะเกิน 5 ปีนะคะ เคยฝัน ฝันดีมาก ฝันเห็นภาพสวยงามมากๆ เป็นเรื่องที่แปลกตามาก ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เราเจอ หรือเราจะมีเมมโมรี่อยู่แบบนั้น เห็นเป็นภาพเรือสำเภาสีทองสวยมาก และมีบอลลูนลอยอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมาก แต่เรือลำนั้นสว่างสีทองสุดๆ สวยงามเลย แล้วก็รู้สึกฝันดี และก็รู้สึกว่าอยากซื้อไพ่ทาโรต์จังเลย ตอนนั้นไปห้าง ห้างจะปิดแล้ว แต่ก็อยากซื้อจนตัดสินใจซื้อเลย ก็เอามาเปิดๆ จะบอกว่าไพ่ทาโรต์เวลาเราซื้อเขาจะไม่ให้เราดูข้างในก่อน และคิดว่าเหมือนไพ่เลือกเราด้วย ในกล่องมันจะมีภาพต่างๆ เห็นว่าเป็นแนวไหน แต่เราไม่เห็นทุกใบในนั้น แล้วพอเรากลับมาเปิดปุ๊บ ภาพแรกที่เปิดมากลายเป็นภาพที่เราเห็นในฝัน เป็นรูปเรือสำเภาตามนั้นเลย หนูก็เลยเริ่มคิดแบบเชื่อมโยงแล้วว่าหรือมันจะมีอะไร”

หลังจากนั้นทำอย่างไรต่อไป ทำไมถึงเชื่อเรื่องนี้?

“ก็อ่านความหมาย ในไพ่เป็นภาษาอังกฤษสื่อความหมายว่าให้เป็นแสงสว่างให้คนอื่น เราเลยรู้สึกว่ามีอะไรแน่ๆ ก็เลยเริ่มอ่านๆ ตอนแรกก็คิดว่าเราก็เป็นคนอ่านหนังสือเยอะเหมือนกัน แต่ทำไมไม่เข้าหัว หรือจะฟุ้งๆ คาใจมากกับการที่อ่านแล้วจำไม่ได้ ก็เลยไปกราบพระอาจารย์ที่นับถือที่เชียงราย แล้วก็เลยบอกท่านว่าถ้าหนูฟุ้งให้บอกหนูเลยตรงๆ หนูจะได้หยุด ไม่สนใจแล้ว ซึ่งท่านเป็นพระวัดป่า ปฏิบัติธรรมเคร่ง ท่านก็นั่งสมาธิและยิ้มแล้วก็บอกว่าก็ทำได้หนิ แต่หนูก็บอกว่าอ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลย ต้องไปลงเรียนมั้ย ท่านก็บอกว่าไม่ต้อง เดี๋ยวสวดให้ หนูก็เลยว่าให้ท่านเบิกเนตรให้หน่อย หลังจากนั้นก็ดูได้เลย หลังจากนั้นก็ดูได้เอง อย่างไรก็ไม่ทราบ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร”

ฟีดแบ็กจากคนที่เราเปิดไพ่ให้ เขาว่าอย่างไรบ้าง?

“คือหนูก็ดูแบบไม่มีตำราอะไร พอเริ่มดูให้เพื่อน คนใกล้ชิด คนรอบข้าง เขาก็บอกสิ่งที่เราแนะนำเขารู้สึกดีขึ้น เขาสบายใจขึ้น เราก็ไม่รู้อะไรดลใจ หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าไลฟ์บอกจะดูดวงให้ จริงๆ หนูก็ไม่มีสูตรอะไรหรอก หนูแค่คิดว่าถ้าเราเห็นของใคร หรือสัมผัสใคร ก็ให้พิมพ์มาถาม แล้วหนูก็อ่านตามไพ่ ฉะนั้นการอ่านตามไพ่มันจะใกล้เคียงกับคุณหรือไม่ อันนี้คุณรู้อยู่ของคุณ อยู่ที่คุณรู้ว่ามันเป็นประโยชน์ก็เก็บไป”

ล่าสุดเห็นว่าไปส่องพระ ถึงขั้นเห็นเป็นเนื้อหนังมังสาของพระเลย?

“คือไม่รู้ว่าส่องเป็นหรือไม่เป็น แต่เป็นคนชอบส่องพระ คือที่จริงก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะมันแล้วแต่ความเชื่อ คือตอนนั้นมีพี่ที่รู้จักเขาบอกว่าลองส่องให้หน่อยเห็นอะไรบ้าง จอยก็บอกว่าส่องไม่เป็นนะพี่ เราเห็นอะไรอย่างไรก็พูดไปแบบนั้น เสร็จแล้วจอยก็ส่องไปที่องค์หนึ่ง เป็นพระอาจารย์โตนะคะ พอส่องไปจอยก็เห็นเป็นเนื้อหนังจีวรจริงๆ จอยก็ตกใจคิดว่าตัวเองคิดไปไกลหรือเปล่า แต่เคยมีพระอาจารย์บอกว่ามีอะไรไม่ต้องสงสัย เราก็เลยรู้สึกว่าต้องบาลานซ์ เวลาเห็นอะไรที่เป็นสิ่งดีสิ่งมงคล เราเชื่อ เราสบายใจ ก็รับไว้ เห็นมาแล้ว 2 ครั้ง และก็เป็นสมเด็จอาจารย์โตทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกเห็นจากส่องพระ ครั้งหลังเห็นจากการไปไหว้พระ กราบพระ เงยหน้ามาก็ตกใจเหมือนเห็นเป็นเนื้อหนัง เราก็รู้สึกปีติจัง”

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *