ถือเป็นหนึ่งครอบครัวตัวอย่างที่ล้มแล้วลุกขึ้นมาได้ด้วยตัวเองจริง ๆ สำหรับ น้อย โพธิ์งาม และ หญิง รฐา ที่ชีวิตต้องผ่านความยากลำบากมามากมาย กว่าจะสุขสบายอย่างเช่นทุกวันนี้
เมื่อไม่นานมานี้ น้อย โพธิ์งาม ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ เปิดกรุลี้ลับ ถึงเส้นทางชีวิตที่กว่าจะได้มาอยู่บ้านหลังปัจจุบันว่า ก่อนหน้านี้ได้เช่าบ้านเดือนละ 7,000 บาท ก็มีความลำบากมาก
เพราะค้างแค่เดือนเดียวก็มีปัญหา ถูกทวงอยู่ตลอด ทางด้านลูกสาว หญิง รฐา ก็บอกกับคุณแม่ว่าให้อดทนอีก 2 เดือน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นลูกสาวก็เริ่มมีงานเดินแบบบ้าง
ไปเป็นตัวประกอบบ้าง รับงานทุกอย่างเพื่อหาเงินมาให้แม่ ต่อมา ลูกสาวอยากย้ายบ้านไปเช่าบ้านเดือนละ 20,000 บาท ซึ่งตนก็คิดว่าอาจจะลำบากมากกว่าเดิม แต่ลูกก็บอกว่าจะทำให้
เนื่องจากคุณตาจะมาอยู่ด้วย ลูกจึงอยากรับภาระมาเอง หลังจากอยู่บ้านหลังใหม่ได้ประมาณ 2 ปี หญิง รฐา ก็มาบอกกับตนว่า ขอเวลาอีก 2 เดือน แล้วจะย้ายบ้านอีก ซึ่งลูกสาวของตน
เป็นคนไม่ค่อยพูด แต่ใกล้เวลาแล้วจะบอกให้คุณแม่เตรียมตัว ต่อมา หญิง รฐา ถ่ายละครเรื่อง ส้มตำลำซิ่ง เสร็จเรียบร้อย ก็ได้เงินมา 300,000 บาท ก็ให้คุณแม่ 100,000 บาท ส่วนที่เหลือลูกสาวขอเอาไปดาวน์รถ
โดย น้อย โพธิ์งาม ได้เก็บเงินก้อนนั้นไว้แล้วไปดูบ้านที่โครงการ แต่เงินดาวน์ไม่พอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่โครงการก็มีการเรียกไปพูดคุย ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็เรียกตนไปดูบ้านที่โครงการอีกครั้ง
ซึ่งตนก็รู้สึกถูกใจบ้านตัวอย่างที่อยู่บริเวณหัวมุม เพราะเดินเข้าไปแล้วรู้สึกเย็นสบาย ตอนแรกพนักงานจะไม่ขายให้ เนื่องจากเป็นบ้านตัวอย่าง แต่ตนก็อธิษฐานขอให้ได้บ้านหลังนี้
โดย หญิง รฐา ได้เข้ามาดูบ้านก็รู้สึกถูกใจเหมือนคุณแม่เช่นกัน จึงตกลงเซ็นสัญญาซื้อ-ขายบ้าน ทำให้ได้บ้านหลังปัจจุบันนี้มา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่โครงการบอกว่า ทางผู้ใหญ่เห็นความดีความชอบของ
หญิง รฐา เพราะเป็นเด็กกตัญญู ทำให้คุณแม่น้อยรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก