วันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในคุ้มประดู่ ว่ามีหญิงชราพักอาศัยอยู่ในเพิงพักเพียงลำพัง ภายในสวนมะพร้าวของชาวบ้านที่เช่าจากวัดเกาะลอยอุดมเอกการาม หมู่ 7 ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี อยู่ริมท้องร่องในสวนมะพร้าวที่อยู่ลึกไกลจากผู้คน ในสภาพบ้านที่ใกล้จะล้มพังจากสภาพที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลา โดยที่หญิงชราคนดังกล่าวมีสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก ด้วยความบกพร่องทางการได้ยินและมีคราบน้ำเหลืองไหลออกมาจากที่ทวารหนักเป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้ที่เข้ามาพบเห็นยิ่งนัก
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวอยู่ลึกเข้าไปจากถนนสายหลักประมาณ 1 กิโลเมตร และมีความคดเคี้ยวและเปลี่ยว ในกลางคืนจะมืดสนิทไม่มีแสงไฟ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สวนปลูกมะพร้าวของชาวบ้านที่เช่าจากวัดเกาะลอยอุดมเอกการาม พบน.ส.กิมลี้ แซ่ตัน อายุ 81 ปี อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
โดยสภาพความเป็นอยู่ของ น.ส.กิมลี้ ไม่ต่างอะไรกับหญิงชราที่รอวันละสังขาร โดยที่ น.ส.กิมลี้ จะมีอาการหวาดกลัวคนแปลกหน้า จะคอยนั่งอยู่ตามพื้นดินด้านล่างของบ้านเพื่อนำน้ำและอาหารให้กับสุนัขที่เปรียบเสมือนกับเพื่อนคู่ใจที่จะคอยมาอยู่ด้วย นอกจากที่นี้สภาพร่างกายไม่ค่อยสมบูรณ์มีอาหารทางประสาทหูเสื่อม หลังค่อม และมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากทวารหนัก พูดเสียงไม่ค่อยชัดเจนนัก
จากการสำรวจของสภาพบ้านที่อยู่อาศัยของ น.ส.กิมลี้ พบว่าเป็นบ้านที่ปลูกด้วยไม้สภาพเสื่อมโทรมตามกาลเวลาที่ปลูกมากว่า 50 ปี จากการใช้ไม้มะพร้าว มุงหลังคาด้วยสังกะสี ไม่มีข้างฝาบ้าน ไม่มีประตู อีกทั้งบันใดทางขึ้นก็อยู่ในสภาพที่แทบจะหักพังลงมาได้ ส่วนตัวบ้านมีความเอียงเอนแทบล้มลงพังทลายลงมาได้ตลอดเวลาหากเกิดลมพายุพัดแรง
สอบถาม นางวาสินี ศิริพิทักษ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในหมู่ 9 ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นหลายสะใภ้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ยายกิมลี้ จะมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้มานานกว่า 50 ปีแล้ว โดยอยู่กับแม่คือนางแอ๊ว ศรีมยุรา เพียง 2 คน ครอบครัวยึดอาชีพทำสวนเก็บพืชผัก มะพร้าวภายในสวนหารายได้ประทังชีวิต และแม่ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 18 ปีก่อน ส่วนนายฮวด แซ่ตัน ผู้เป็นพ่อได้แยกทางกันและออกไปบวชอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครปฐม ก่อนจะเสียชีวิตไปเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยายกิมลี้ ต้องอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้เพียงลำพังเรื่อยมา และยังคงยึดอาชีพเก็บผักตามสวนไปขายเช่นดังเดิม ยายเป็นคนสู้ชีวิตไม่มีครอบครัว เพราะกลัวความผิดหวังและล้มเหลวเสมือนพ่อและแม่ของตนเอง จึงตัดสินใจใช้ชีวิตเพียงลังภายในบ้านหลังนี้ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ผู้เป็นแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตายจากไป
นางวาสินี เล่าต่อว่า ตนแม้จะเป็นหลานสะใภ้ แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งเคยรับยายกิมลี้ไปอยู่ด้วยแต่ยายก็หนีกลับมา เพราะด้วยความรักและห่วงบ้านที่เป็นที่พักมานานกว่า 50 ปี มีความผูกพันเป็นอย่างมาก จึงเข้าใจและก็เป็นห่วงเสมอมา ส่วนหลานๆ ก็ล้มหายตายจากไปเช่นกัน ตนก็ได้แต่เทียวมาดูบ้างเป็นบางวัน เพราะบ้านอยู่ห่างไกล อีกทั้งต้องทำงานหาเลี้ยงชีพและครอบครัวเช่นกัน บางครั้งแวะเข้ามาเยี่ยม นำกับข้าวมาให้ เพราะยายกิมลี้จะหุงทานเอง แต่ทุกครั้งที่เข้ามาจะเห็นสภาพที่หดหู่ทุกครั้ง เพราะยายไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปาใช้ ต้องจุดเตาที่มีสภาพแตกและผุพัง ยายจะนำมากองๆ รวมกันให้เพียงพอต่อการตั้งหม้อหุงข้าว และทุกครั้งที่หุงเข้าหรือใช้ดื่มยายจะลงไปตักน้ำภายในร่องสวนมะพร้าวขึ้นมาใช้ บางครั้งติดฟืนไม่ค่อยติดทำให้ข้าวที่หุงแบบเช็ดน้ำไม่ค่อยสุก เม็ดข้าวยังดิบๆ แต่คุณยายก็ต้องกินเพื่อประทังชีวิต
บางวันตนต้องซื้อน้ำมาไว้ให้ดื่มกิน แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะซื้อมาให้มากนัก นอกจากนี้ยายกิมลี้เองก็มีสุขภาพไม่ดีมากนัก ปัจจุบันเป็นโรคหูตึงมีอาการหูน้ำหนวกยายต้องเอายาตั้งอุดที่หูไว้ซึ่งเป็นความเชื่อของคุณยายที่ใช้รักษา เนื่องจากมีอาการคัน นอกจากนี้ยังมีการเป็นโรคริดสีดวงทวารหนักมีเลือดและน้ำเหลืองไหล คาดว่าจะเป็นแผลอักเสบ แต่ก็ไม่มีเงินไปรักษา เนื่องจากยายกิมลี้ไม่มีบัตรประชาชนหลังจากที่ตกสำรวจไป จึงไม่มีสิทธิ์ในการรักษาใดๆ ยายจึงไม่ได้ไปทำการรักษาต้องทนเจ็บทนปวด บางวันเคยแอบเห็นคราบน้ำตาที่อยู่ติดบริเวณขอบตาที่ดูแล้วคล้ายกับร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา ตนก็อดสงสารไม่ได้ทุกครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะหาทางช่วยเหลือได้อย่างไร เบื้องต้นก็ได้ประสานผู้ใหญ่บ้านและทางนายก อบต.เพื่อช่วยให้คุณยายมีบัตรประชาชน และเข้าใช้สิทธิ์ทางภาครัฐ ซึ่งอยากให้ยายได้ไปรักษาตัวไม่ต้องมาทนทุกทรมานเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าอยากให้สังคมได้ช่วยเหลืออะไรกับคุณยาย นางวาสินี ตอบกลับว่าในส่วนตนเองแล้วไม่อยากขออะไรมากอยากให้คุณยายมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้ สภาพบ้านก็แทบจะล้มพังทลายลงมาหากมีผู้ใจเมตตาอยากช่วยเหลือหรือซ่อมแซมบ้านให้ยายได้พักอาศัยแบบมิดชิด เพราะที่ผ่านมาเคยมีคนเข้ามาทำร้ายคุณยายจนทำให้ยายเกิดอาการหวาดกลัวคนแปลกหน้า นอกจากนี้อยากให้ยายได้มีไฟฟ้าใช้หรือมีถังเก็บกักน้ำดื่มซึ่งยายจะได้ไม่ต้องลงไปตัดน้ำจากในท้องร่องสวนมะพร้าวขึ้นมาดื่มกิน หรือจะเดินทางมาเยี่ยมคุณยายเพื่อให้ขวัญและกำลังใจก็ยินดี หรือจะติดต่อให้ความช่วยเหลือได้ที่ โทร 085-1632093