ยังคุกรุ่นสุดๆ ในโลกออนไลน์ตอนนี้ หลังจากที่ นุ่น ดำดง หรือ นุ่น เนตรชนก นางเอกลิเกจากคณะ ศรราม น้ำเพชร ได้ออกมาประกาศว่า เธอลาออกจากคณะศรราม น้ำเพชรแล้ว พร้อมให้เหตุผลว่า เธออยู่ในคณะแล้วไม่มีความสุข ทั้งคณะตึงใส่แทบทุกคนแม้กระทั่งหัวหน้าอย่าง แบงค์ ศรราม
และที่กำลังลือกันอย่างหนาหูถึงต้นตอการแยกแตกในครั้งนี้ที่แบ่งกันเป็น 2 ฝ่าย นั่นก็คือ หลายคนมองว่า นุ่น ดำดง มีแม่ยกที่เปย์หนักเกินไปจนเกิดปัญหาขึ้น อีกฝั่งหนึ่งก็มองว่าน่าจะพิจารณาที่ตนเองถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมคนทั้งคณะไม่คุยด้วย
ก่อนหน้านี้แบงค์ ศรราม อเนกลาภ เจ้าของคณะลิเก ศรราม น้ำเพชร เคยให้สัมภาษณ์กรณีดราม่าของ นุ่น ดำดง โดยตอนนั้นเป็นเรื่องที่ แม่น้ำหนึ่ง เจ้าแม่ใบ้หวยชื่อดัง เปย์รถ นุ่น ซึ่ง แบงค์ ศรราม ได้บอกว่า ดราม่า เรียกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ เราไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ และอย่าอิจฉา เพราะวาสนาไม่เท่ากัน
“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องมีสติว่าเราทำอะไรอยู่ สิ่งที่เราทำมันถูกหรือผิด ดราม่าที่มันเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นจากอะไร เราผิดหรือไม่ผิด ถ้าเราผิดเราก็ขอโทษ แต่เราถ้าไม่ผิด อยู่ดีๆ ก็มีดรามาขึ้นมาก็ไม่ต้องไปโฟกัสอะไร มันมีเข้ามาเดี๋ยวมันก็เงียบไปเอง เราก็จะดูที่เป็นประเด็นไป
เพราะดราม่าที่มันเกิดขึ้นมันเกิดจากปัญหาส่วนตัว เป็นเรื่องส่วนบุคคล ถ้าเขาต้องการคำปรึกษา เขาก็เดินมาขอคำปรึกษาจากเราได้ บางทีเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแต่ละคนต้องการเคลียร์ปัญหา หรือแก้ปัญหาด้วยตัวเองหรืออยากจะขอคำปรึกษา เราก็จะมีบอร์ดบริหารไว้คอยให้คำปรึกษา”
พร้อมกันนี้ ช่วงตอนหนึ่ง แบงค์ ศรราม ได้พูดถึงประเด็น มีคนเอาเงินฟาดซื้อตัว และเรื่องที่แม่น้ำหนึ่งเปย์รถ “นุ่น ดำดง” ว่า “อันนี้ไม่มีนะครับ แล้วก็ไม่ทราบด้วย เราไม่รู้ กรณีแม่น้ำหนึ่งทุ่มให้เขา เรียกว่าเป็นโชคดีของนุ่นเองดีกว่า ก็เหมือนแบงค์เองที่มีแฟนคลับมาชื่นชอบ มาเปย์ เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคลเลย อันนี้แบงค์ไม่ยุ่งไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแต่ที่จะมีคนเอานั่นเอานี่มาให้ เรายินดีอย่างเดียว ได้อะไรเราก็ยินดี”
ก่อนที่ แบงค์ ศรราม พูดถึง การทำสัญญาในคณะลิเกศรราม น้ำเพชร ว่าไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ ซึ่งพอไม่มีสัญญาเราอยู่กันยังไง ดังแล้วเขาอาจอยากออกไปเติบโตเองไหม ถ้าใครติดตามคณะลิเกศรราม น้ำเพชร จะรู้เลยว่าตั้งแต่เราตั้งคณะมามีศิลปินคนไหนบ้างที่เติบโตกับคณะเรา แล้วเขาก็ขอไปเติบโตเองตามทางของเขาก็มีหลายคน
“แต่เราก็ยังจะเป็นสัญญาใจอยู่ แบงค์เชื่อว่าคนเราทุกคนมีทางเดินของตัวเอง เราเหมือนเป็นบ้านหลังหนึ่งที่มาสร้างเนื้อสร้างตัวกัน ทำงานไปด้วยกัน วันหนึ่งโอกาสแต่ละคนวิ่งเข้ามาหาไม่เหมือนกัน สุดท้ายแล้วเราขอแค่ว่าอย่ากระทบกับงานของเรา อย่าให้งานเราเสีย เราไม่ปิดกั้นโอกาส คุณจะได้เท่าไหร่ก็แล้วแต่เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลเลย”
พร้อมกันนี้ แบงค์ ศรราม ยังบอกอีกว่า เรื่องของรางวัลของแต่ละคนเราจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เราอยู่ในคณะเดียวกัน อยู่กันเหมือนพี่น้องเป็นครอบครัว พ่อครูคำสอนมาโดยตลอดว่าอย่าไปอิจฉาใคร อันนี้คือสิ่งสำคัญที่พ่อครูบอกทุกคนไว้เสมอโดยเฉพาะคนกันเอง อย่าไปอิจฉากัน มันคือบ่อเกิดของความทุกข์ เราอยู่ด้วยกันเราก็ยินดีกันไป เขาได้ดีเราก็ต้องยินดี ช่วยซัปพอร์ตกัน