ดราม่าชุดออกงาน ชุดผ้าไหม ‘อุ๊งอิ๊งค์’ ชาวเน็ตดูแล้วเอะทำไมคุ้นๆ

จากกรณีโลกออนไลน์แห่วิพากษ์วิจารณ์ ชุดของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊งค์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่สวมใส่ชุดผ้าไหม ขึ้นเวทีในงาน “THACCA SPLASH-Soft Power Forum 2024”
โดยเฉพาะเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล”ของนาง อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร
และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ภาพ น.ส.แพทองธาร ที่สวมใส่ชุดผ้าไหมในงานดังกล่าว พร้อมข้อความระบุว่า “เปลี่ยนตัวดีไซเนอร์ด่วน!! งาน “THACCA SPLASH-Soft Power Forum 2024”

และยังมีชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับชุดดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดเป็นกระแสดรามาขึ้น จนดีไซเนอร์ที่เป็นคนออกแบบชุดดังกล่าว
ต้องออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวอธิบายความหมายของแต่ละส่วนในการทำงานออกแบบเสื้อตัวนี้ตามโจทก์ที่ได้รับ คือการนำเอาผ้าเอกลักษณ์ของชาวอีสานมาผสมผสานกันเป็นเกิดเป็นชุดนี้ขึ้นมา
ทั้งนี้ ธรากร คำทอน อายุ 27 ปี ดีไซเนอร์ทำแบรนด์ผ้าไหม ร่วมกับชุมชน อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองเป็นผู้ออกแบบ และตัดเย็บเอง
โดยเลือกผ้าจากในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและทั่วภาคอีสาน โดยได้รับโจทก์การทำมา จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ตนเองสำเร็จการศึกษามา

โดยโจทก์ที่ได้รับนั้นคือ อยากได้เป็นธีมชุดผ้าจากภาคอีสานทั้งหมด ส่วนตัวพยายามมองถึงลักษณะเด่นการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่าผ้าอื่นๆ
จึงเล็งเห็น “ผ้าเบี่ยง” คือผ้าสไบเล็กๆ ที่พาดหน้าอกของชาวอีสานในหลายๆ กลุ่มชนในชาติพันธุ์หลายๆ ชาติก็จะมีการใช้ผ้าเบี่ยงที่แตกต่างกันออกไป
เรารู้สึกว่าผ้าเบี่ยงเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกเฉพาะถึงกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จึงอยากดึงเอาเอกลักษณ์นี้มาทำเป็นชุดที่อยากจะนำเสนอในรูปแบบอีสานสมัยใหม่มากขึ้นจึงออกมาเป็นชุดนี้

ดีไซเนอร์ที่ออกแบบชุดดังกล่าวยังบอกอีกว่า ต้องขอขอบคุณชาวโซเชียล ทั้งให้กำลังใจเข้ามาชื่นชม และยังมีคำติที่เราขอน้อมรับไว้ เพื่อนำไปพัฒนาดีไซน์ต่อไปให้ออกมาดีขึ้นเรื่อยๆ
และขอบคุณแทนแม่ๆ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ทอผ้าไทย อยากให้ทุกคนมีกำลังใจ ที่หลายคนเห็นคุณค่าของผ้าทอไทย อยากจะให้สนับสนุนบุคคลเหล่านี้ด้วย

สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่างานดีไซน์มีหลากหลาย ถ้าเรามองเป็นกลางเราก็จะเจอสิ่งที่จะสามารถนำไปพัฒนาต่อได้ เพื่อให้ไปสู่สิ่งที่ดีได้นอกเหนือจากคำตำหนิหรือการด้อยค่า
เพราะการทำงานชิ้นหนึ่งขึ้นมาไม่ได้เริ่มแค่เราคนเดียว แต่ยังมีอีกหลายคนที่ร่วมกับเราบางคนก็รับได้บางคนก็รับไม่ได้ แต่ส่วนตัวมองว่างานศิลปะเป็นสิ่งที่ตัวเราเองทำขึ้นมาก็จะมีทั้งคนชอบ
และไม่ชอบ ซึ่งก็ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ ทั้งสนับสนุน และติชมเข้ามาแต่ไม่ท้อจะขอทำงานร่วมกับชาวบ้านในชุมชนต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *