หากพูดถึงนักร้องชื่อดัง อ๊อด โอภาส อดีตสามีของนักแสดงมากฝีมือ แก้ว อภิรดี เชื่อว่าหลายคนจำได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งคู่ก็เลิกรากันมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง อีกทั้ง อ๊อด โอภาส ยังป่วยหนักต้องเสียค่ารักษาเดือนละเป็นแสน ล่าสุด อ๊อด โอภาส ได้ควงลูกสาว น้องเบลล์ มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ SHOW ทางช่อง ONE31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญเรศ และชมพู่ก่อนบ่ายเป็นพิธีกร
ทำไมตอนนั้นถึงตัดสินใจแต่งงานกับพี่แก้ว?
อ๊อด : พี่ว่าในตอนนั้นเราเข้ากันได้ในหลายๆ เรื่อง คุยกันแล้วถูกคอ ส่วนสาเหตุที่เลิกกัน มีอยู่ระยะนึงมันไม่เกี่ยวกับโรคภัยที่พี่เป็น แต่เขาอยากทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตของเขา เราก็คุยกัน พี่ก็บอกว่าแล้วแต่เขา ซึ่งทุกวันนี้เราก็เป็นเพื่อนกันยังคุยกันปกติ แค่เปลี่ยนสถานะจากสามี ภรรยา แต่ลูกๆ ไม่เกี่ยวยังดูแลเหมือนเดิม วันที่เขาเข้ามาคุยขอเป็นเพื่อนพี่ไม่ร้องไห้นะ เพราะพี่คิดว่าคนจะไปก็ต้องไป ยื้อไปก็ไม่มีประโยชน์ เราก็แยกทางกันด้วยดี บ้านก็อยู่ด้วยกันแค่สถานะเปลี่ยนไป
อ๊อด : ผมว่าไม่ใช่นะ ผมเป็นโรคเกี่ยวกับการอักเสบของข้อชนิดหนึ่ง สาเหตุมาจากภูมิต้านทานเรามีปัญหา พอมีอะไรนิดหน่อยก็ไม่บอกข้อ ข้อนี้ไม่ดีมันอันตรายไปบอกสมองให้สร้างแคลเซียมมาเกาะไว้ ถ้าแคลเซียมเยอะมากมันก็จะติด อย่างคอผมไม่ร้อยแล้ว มีทางเดียวคือผมต้องผ่าตัดคอ เรามีกระดูกคอหลายหลายซี่ตอนนี้ประมาณ 2 ข้อผมติดละ คือถ้ามีอุบัติเหตุชนข้างหลังผมคอหักเลย ถามว่าปวดขนาดไหน ผมโชคดีที่เป็นโรคกระดูกไขข้อแบบยึดติด มันไม่อะไรไปทับเส้นประสาท
ก่อนหน้าที่จะเป็น AH ไปหาหมอ หมอว่าไง?
อ๊อด : หาอยู่ 3-4 หมอ 5หมอ แล้วกว่าจะเจอหมอที่รักษาโรคแบบนี้ได้ คือไม่ใช่ว่าคุณหมดโรคกระดูกทุกท่านจะรักษาได้นะครับต้องเป็นคุณหมอเฉพาะทางจริงๆถึงจะทำได้ ผมหาอยู่เยอะมากกว่าจะเจอว่าตัวเองเป็นโรคอะไร เสียดายที่เจอช้าไปหน่อย เร็วกว่านี้ก็มีโอกาส เพราะยาที่ผมใช้บางชนิด เพราะคนไทยไม่ค่อยเป็นก็ต้องนำเข้า ยากินนี่เรากินได้พวกกลุ่มยาเอนแซทอะไรพวกนี้แล้วก็พวกยาบางตัวอย่างเมนโทเอกเซส บางคนไม่รู้หยิบมาดูบุ๊ปนี่มันยาต้านมะเร็ง ไม่ใช่มันรักษาได้หลายอย่าง คุณหมอต้องรีบบอกแต่แรก พอผมทานยาบุ๊ปคุณหมอนั่งเฝ้าเลย ขอเวลาคุณหมดชั่วโมงนึงนั่งเฝ้าเลยถ้าแพ้อาการมันจะแรงต้องแก้ไขเดี๋ยวนั้น หมอขอเฝ้าก่อนไม่ให้ไปไหนเลย ไม่แพ้ครับ แล้วก็ใช้ยาฉีด ฉีดบุ๊ปดีทันทีเลย แต่หลังฉีดใครรู้ค่ายาก็เป็นลมหมด
เท่าไหร่คะพี่ขอถามหน่อย?
อ๊อด : เข็มนึงประมาณ 5 หมื่นครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้วผมฉีด 2 อาทิตย์ครั้ง เฉลี่ยเดือนละ 2 เข็ม ก็ตกเดือนนึงก็แสนกว่าบาท แล้วมีค่ายากินอีก ตอนนี้หยุดฉีดแล้ว
ห่วงลูกสาวมั้ย?
อ๊อด : ห่วงครับ แต่ว่าผมให้อิสระในการคิด สอนวิธีการคิดเขา เราก็เจอกันแทบทุกวัน เพราะโซเชียลนี่แหละทำให้เราคุยกันตลอด
น้องเบลล์เป็นห่วงคุณพ่อขนาดไหน?
เบลล์ : เป็นห่วงแต่คุณพ่อไม่ค่อยบอก หนูก็คอยดูคุณพ่อตลอด ดีที่คุณพ่อชอบเล่นโซเชียล เขาก็จะอัปเดต ตลอด ซึ่งถ้าย้อนไปวันที่คุณพ่อเลิกกับคุณแม่ตอนนั้นเราไปโรงเรียน แล้วคุณครูก็เอาหนังสือพิมพ์มาให้เราดู เราก็ร้องไห้ เสียใจ แต่เพราะเรายังเด็กคุณพ่อ คุณแม่ อาจจะไม่ได้บอกเรา แต่พอกลับมาบ้านก็มีการคุยกัน แต่ที่เสียใจกว่านั้นคือแม่มากระซิบข้างหูว่าจะเลือกอยู่กับใคร พอโตมาก็เข้าใจกันมากขึ้นว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ยังไงพ่อแม่ก็ทำหน้าที่ดูแลลูกอย่างดีมาตลอด
ณ วันที่แม่ให้เลือกว่าจะอยู่กับใคร สุดท้ายพ่อกับแม่ไม่ได้แยกเขาอยู่บ้านเดียวกัน?
เบลล์ : คุณพ่อก็จะมีห้องของเขา คุณแม่ก็จะมีห้องของเขา ก็จะแวะมาหา เจอกันบ่อยๆ ตอนนั้นหนูไม่ได้ขอไม่ให้เขาแยกกัน แต่เป็นเพราะเขาตกลงกันเอง เพราะเขามีลูก ไม่อยากให้ลูกๆ รู้สึกว่าขาดอะไร ทุกๆ เหตุการณ์สำคัญในชีวิตคุณพ่อ คุณแม่อยู่ข้างๆ ลูกเสมอ
อ๊อด : ถามว่าอยู่บ้านเดียวกันมั้ย ก็ใช่ แต่ต่างคนต่างก็มีบ้าน บางคนบอกว่าพี่เลิกกันแล้วทำไมต้องอยู่บ้านเดียวกัน ก็อยู่บ้านเดียวกัน แต่เราก็มีบ้านของเรา สถานะก็คือเพื่อน มีอะไรก็ปรึกษากัน
ปรึกษาทุกเรื่องรวมถึงเรื่องรักครั้งใหม่ของพี่แก้วด้วยมั้ย?
อ๊อด : ก็ปรึกษา แต่เขาจะปรึกษาในมุมที่เหมาะสม
เบลล์ : คุณแม่ไม่ได้ปรึกษาแค่คุณพ่อ เขาจะปรึกษาทุกคนในบ้าน เพราะเขาเป็นห่วงความรู้สึกของทุกคน เพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่หนูก็เคารพในการตัดสินใจของเขา แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา ครั้งแรกเจอหนูยอมรับหนูมองหน้าเขาหนูไม่ไหว้ คือไม่ไหว้ก็เพราะไม่รู้จัก ไม่รู้ใคร แต่พอเวลาผ่านไปพี่ต๊อดเขาดีกับครอบครัวหนูแล้วเราก็คุยกันรู้เรื่อง